SET Index: แนวต้าน 1570 แนวรับ 1555
  SET Index: 1564.74 ปรับตัวลดลงเกิดสัญญาณขายทางเทคนิคในระยะสั้น หลังจากฟื้นตัวไปทดสอบแนวต้านที่ 1570 จุด ในขณะที่มูลค่าการซื้อขายกลับมาเบาบางอีกครั้ง ซึ่งเราคาดว่า แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1555 จุดบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ถ้าหลุดจะมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1540 จุด และมีแนวต้านที่ 1570-1572 จุด
  แนวต้าน : 1565 และ 1567
  แนวรับ : 1560 และ 1555

MTLS = 30.50 / 32.50, CPF = 26.00 / 26.50, TRUE = 5.00 / 5.15, BANPU = 16.50 / 16.70, MINT = 37.50 / 39.00

Home Product Center (HMPRO TB; THB 9.90) – ซื้อ
  แนวต้าน : 10.40 และ 10.60
  แนวรับ : 9.90 และ 9.80

  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐานที่เส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ในขณะที่โครงสร้างในระยะยาวทะลุผ่านแนวโน้มขาลงขึ้นไปได้แล้ว
  MACD เคลื่อนไหวออกด้านข้างในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
  แนะนำซื้อ HMPRO โดยมีแนวรับที่ 9.90 และ 9.80 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 10.40 และ 10.60 เป็นจุดขายทำกำไร
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 9.65 ลงไป

Chai Watana Tannery Group (CWT TB; THB 2.98) – ซื้อ
  แนวต้าน : 3.20 และ 3.30 / แนวต้านสำคัญ 3.38-3.40
  แนวรับ : 2.98 และ 2.94
  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้น แต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
  MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
  แนะนำซื้อ CWT โดยมีแนวรับที่ 2.98 และ 2.94 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 3.20 และ 3.30 เป็นจุดขายทำกำไร
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 2.90 ลงไป

Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 761-9231 - This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)

SET…หุ้นที่งบออกมาดีกว่าคาด แต่ราคายังไม่ขึ้น
  งบ Q2/17 ของหุ้นจดทะเบียนในตลาด ได้ออกงบมาหมดแล้ว จากฐานข้อมูลใน Thomson Reuters/IBES จ านวน 101 บริษัท พบว่า ค่า EPS growth ใน Q2/17 ติดลบ 6.5% เทียบกับ Q2/16 แต่หากดูในส่วนของรายได้(Revenue) พบว่าโตถึง 9% ดังนั้นการที่อัตราการทำกำไรต่อหุ้นใน
Q2/17 ลดลง (YoY) ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างจะชะลอตัวหมด เพราะในส่วนรายได้ยังโต หรือกำลังซื้อยังโต แต่ที่กำไรลดลง น่าจะมาจากแรงกดดันในบางอุตสาหกรรม อย่างเช่น ธนาคารพาณิชย์
  รูปด้านซ้ายและขวา เราแสดงหุ้นที่มี Earning surprise (งบออกมาจริงดีกว่าค่าเฉลี่ย) โดยใช้ฐานข้อมูลจาก Thomson Reuters พบว่าส่วนใหญ่จะตอบสนองในเชิงบวกในวันออกงบ อย่างไรก็ตามยังมีบางตัวที่ไม่ตอบสนองหรือตอบในเชิงลบ อย่าง STEC M MAJOR SIRI โดยหุ้น STEC
มี Surprise (2.7%) SIRI(10%) MAJOR(3.3%) M(9%) เรามองว่าหุ้น SIRI MAJOR และ STEC ราคาหุ้นน่าจะดีดตัวได้มากกว่านี้โดยหุ้นที่งบออกมามี Surprise สูงมากๆ คือ ITD(145%) ERW(130%) CK(80.6%) LH(47%) และ WORK(49.8%) สำหรับกลุ่มที่งบ Q2/17 ออกมา
หมดแล้วมี Earning surprise หลายๆบริษัท คือ กลุ่มบันเทิง อย่าง RS(71.7%) VGI(50%) WORK(49.8%) PLANB(8.5%) และ MAJOR(3.3%)นอกนั้นคือกลุ่ม รับเหมา คือ STEC(2.7%) CK(80.6%) ITD(145%) และ UNIQ(1.3%) และโรงพยาบาล คือ BDMS(107.3%) BH(6.9%)
LPH(11.1%)
  เมื่องบออกมาหมด หลังจากนี้ทิศทางดัชนี คงต้องกลับไปอิงกับปัจจัยภายนอกต่อ โดยเฉพาะ ทิศทางดัชนีตลาดหุ้นและการเมืองของสหรัฐ ราคาน้ำมันและเหตุการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีโดยในสัปดาห์หน้าคือวันศุกร์ ตลาดกำลังรอดูผลการประชุมของธนาคารกลางทั่วโลกที่ Jackson hole
ว่าทาง ECB จะส่งสัญญาณอะไรออกมาบ้างในเรื่อง QE หากไม่มีอะไร ตลาดหุ้นคงจะตอบสนองในเชิงบวก ส่วนประเด็นภายในที่จะส่งผลต่อตลาด คือ การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจอย่าง ส่งออก-นำเข้า และตัวเลข GDP Q2/17 ในวันจันทร์ที่จะถึง
  สำหรับทิศทางดัชนี SET ในช่วงท้ายสัปดาห์ถึงต้นสัปดาห์หน้า หลังงบออกมาหมด คาดดัชนีจะกลับมาผันผวนอีกครั้งหลังดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งลงแรง จากความวุ่นวายปัญหาการเมืองภายใตการบริหารของนาย Donald Trump โดยประเด็นดังกล่าว กำลงัเป็นปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดแรง

       ขายหุ้นในสหรัฐเราจึงแนะนำให้นักลงทุน ขายหุ้นทำกำไรออกไปบางส่วน จนกว่าจะผ่านสัปดาห์หน้า โดยวันนี้ทิศทางดัชนี SET น่าจะได้รับผลกระทบทางจิตวิทยาเชิงลบจากการดิ่งลงของดัชนีตลาดหันสหรัฐและภูมิภาค แต่คงไม่แรงมาก เนื่องจากน่าจะมีแรงซื้อหุ้นพลังงานเข้ามาพยุงโดยวันนี้มองแนวรับที่ 1560-1556 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1571-1575 จุด วันนี้แนะนำซื้อเก็งกำไร BLA STEC MAJOR MINTผลกระทบทางจิตวิทยาเชิงลบจากการดิ่งลงของดัชนีตลาดหันสหรัฐและภูมิภาค แต่คงไม่แรงมาก เนื่องจากน่าจะมีแรงซื้อหุ้นพลังงานเข้ามาพยุงโดยวันนี้มองแนวรับที่ 1560-1556 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1571-1575 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร BLA STEC MAJOR MINT

Analysts :
Kiatkong Decho +662 761-9236 This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)

Morning Market Summary…
  SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,564.74 จุด ลดลง 4.21 จุด (-0.27%) มูลค่าการซื้อขาย14,893.58 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงตามตลาดหุ้นต่างประเทศทั่วโลก เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับเหตุก่อการร้ายที่สเปน รวมทั้งสถานการณ์การเมืองในสหรัฐฯ หลัง "ทรัมป์" ประกาศยุบสภาที่ปรึกษา

Afternoon Perspective…
  แนวโน้มตลาดช่วงบ่าย แกว่งแคบ ปัจจัยลบจากทิศทางตลาดต่างประเทศกดดันตลาดหุ้นไทยในภาพรวมให้ปรับตัวลดลง โดยนักลงทุนกลับมาให้น้ำหนักกลับทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐอีกครั้ง หลังปัญหาการเมืองสหรัฐเริ่มมีน้ำหนักกลับมากดดันภาวะตลาด ประกอบกับตลาดยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามากระตุ้น ทำให้นักลงทุนเริ่มทยอยลดพอร์ตลง เราแนะนำให้นักลงทุนทยอยลดพอร์ตเพื่อเก็บเงินสดไว้รอเข้าซื้อ ในจังหวะที่ตลาดปรับตัวลงแรง มองแนวรับที่น่าสนใจในการเข้าเล่นรอบใหญ่ที่ 1550 จุด โดยมีแนวรับระหว่างทางที่1562 จุด และแนวต้านระยะสั้นที่ 1573 จุด หุ้นแนะนำมองกลุ่มโรงกลั่นจะยังมีผลการดำเนินงานที่ดีใน Q3/17 เนื่องจากมีการทยอยหยุดซ่อมบำรุงในภูมิภาคค่อนข้างมากแนะนำ SPRC, IRPC, BCP

Technical Pick (PM) ...
  Home Product Center (HMPRO TB; THB 9.90) – ซื้อ
  Chai Watana Tannery Group (CWT TB; THB 2.98) – ซื้อ

Analysts :
Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 – This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
Teerawut Kanniphakul +66(2) 761 9233 – This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.