มติชนออนไลน์ :
เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 9.00 น. วันที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา ที่ศาลอาญาธนบุรี ถนนเอกชัย ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีที่ นายฟรานเซสโก วาดาล่า ชาวอิตาลี อาชีพพนักงานการตลาดบริษัท ต๊อก อิตาเลี่ยน จำกัดประเทศอิตาลี เป็นโจทก์ฟ้อง บริษัท กล้วยไม้ไทย จำกัด จำเลยที่ 1, นายเจตน์ มีญานเยี่ยม นายกสมาคมกล้วยไม้ดอกประเทศไทย จำเลยที่ 2 จำเลยในความผิดฐานแจ้งความเท็จและฟ้องเท็จ
คดีนี้โจทก์ ฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2548 จำเลยที่ 1-2 มอบอำนาจให้จำเลยที่ 3 ในฐานะทนายความ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ ว่าโจทก์ทุจริตใช้อุบายหลอกลวง อ้างเป็นเจ้าของ บ.ต๊อก อิตาเลี่ยน ประกอบธุรกิจส่งออกกล้วยไม้ดอกรายใหญ่ ทำให้จำเลยหลงเชื่อส่งกล้วยไม้ให้โจทก์รวมมูลค่าประมาณ 5,231,000 บาทเศษ แล้วโจทก์ไม่ชำระค่าสินค้า ทั้งที่โจทก์เป็นเพียงผู้ติดต่อซื้อขายตรวจสอบคุณภาพสินค้า โดยมีบุคคลอื่นเป็นเจ้าของบริษัท ซึ่งจำเลยทราบดี ดังนั้นการกระทำของจำเลย จึงเป็นการแจ้งความเท็จ ทำให้โจท์ถูกออกหมายจับและห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ซึ่งต่อมาอัยการสั่งไม่ฟ้องคดีนี้
ศาลฎีกา พิเคราะห์พยานหลักฐานคำเบิกความโจทก์-จำเลยนำสืบหักล้างกันแล้วเห็นว่า จำเลยที่ 1-2 และบริษัทต๊อก อิตาเลี่ยน เคยติดต่อซื้อขายกันมานานตั้งแต่ปี 2545 ก่อนที่จำเลยจะเข้าแจ้งความและฟ้องคดีต่อศาลในปี 2548 ดังนั้นจำเลยย่อมต้องทราบดีว่าบุคคลใดเป็นเจ้าของบริษัทต๊อก อิตาเลี่ยน และความจริงแล้วโจทก์ไม่ใช่เจ้าของ ข้อเท็จจริงเชื่อได้ตามพยานหลักฐานโจทก์ ข้ออ้างของจำเลยฟังไม่ขึ้น พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ลงโทษปรับเงิน บริษัท กล้วยไม้ไทย จำกัด จำเลยที่ 1 ในความผิดฐานแจ้งความเท็จ และฟ้องเท็จ 2 สำนวน ๆ ละ 10,000 บาท รวมปรับ 20,000 บาท ส่วนนายเจตน์ มีญานเยี่ยม นายกสมาคมกล้วยไม้ดอกประเทศไทย จำเลยที่ 2 มีความผิดฐานเดียวกัน พิพากษาจำคุก กระทงละ 2 ปี รวม 2 กระทง ลงโทษจำคุกรวม 4 ปี และให้ยกฟ้องนายอุดมเดช เตชะดิลก จำเลยที่ 3 เนื่องจากกระทำในฐานะทนายความ