MEA ขานรับนโยบายรัฐบาลเปิดลงทะเบียน 'ไทยชนะ' ทุกที่ทำการ ฯ ควบคุมไวรัสโควิด-19
การไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA ดำเนินการตามนโยบายภาครัฐ เปิดลงทะเบียนเพื่อเช็กอิน-เช็กเอาต์ ก่อนและหลังใช้บริการผ่านแพลตฟอร์ม "ไทยชนะ" ทุกสำนักงาน และที่ทำการการไฟฟ้านครหลวงเขต ช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถประเมินสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประชาชนทราบความหนาแน่นของผู้ใช้บริการ เพิ่มความปลอดภัยในการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
สำหรับ ประชาชนผู้ใช้บริการ MEA ต้องเข้าใช้เว็บไซต์แพลตฟอร์ม 'ไทยชนะ'เพื่อเช็กอิน-เช็กเอาต์ ก่อนและหลังใช้บริการ โดยมีวิธีปฏิบัติดังนี้ ก่อนเข้าใช้บริการในสำนักงาน หรือที่ทำการการไฟฟ้านครหลวงเขต MEA ต้องสแกนคิวอาร์โค้ดด้วยสมาร์ทโฟนเพื่อเช็กอินพร้อมกรอกเบอร์โทรศัพท์ และเมื่อใช้บริการเสร็จสิ้น ก่อนออกจากสถานที่ ผู้ใช้บริการต้องเช็กเอาต์ โดยสแกนคิวอาร์โค้ดด้วยสมาร์ทโฟนอีกครั้ง โดยระบบจะให้ประเมินการใช้บริการ ในด้านสุขอนามัย ความสะดวก และความหนาแน่น อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟน หรือใช้สมาร์ทโฟนไม่สะดวก สามารถเข้าใช้บริการได้เช่นกัน โดยต้องลงทะเบียน กรอกชื่อ-นามสกุล และเบอร์โทรศัพท์ ในสมุดบันทึกที่ MEA จัดเตรียมไว้
แพลตฟอร์ม 'ไทยชนะ' จะมีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจากการเช็กอินแบบมีรหัส โดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เป็นหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลเพื่อติดตาม สอบสวนโรค กรณีพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากกิจการ ห้าง ร้านต่าง ๆ โดยเก็บข้อมูลไว้เป็นเวลา 60 วัน โดยประชาชน สามารถตรวจสอบเรตติ้งของห้างร้านต่างๆ รวมทั้งความหนาแน่นของผู้เข้าใช้บริการได้ โดยเข้าไปที่ www.ไทยชนะ.com เลือกแถบสีเหลืองที่มีคำว่า “ค้นหาร้านค้า” สำหรับผู้ที่ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถ โทร Call Center 02 111 1999
ทั้งนี้ MEA กำหนดมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และดำเนินการตั้งจุดตรวจคัดกรองผู้ปฏิบัติงานและบุคคลภายนอกที่เข้ามาติดต่อก่อนเข้าอาคาร MEA รวมถึงบริเวณห้องชำระค่าไฟฟ้า ด้วยเครื่องวัดอุณหภูมิร่างกาย (Thermoscan) ทำความสะอาดพื้นที่ พร้อมทั้งฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อในบริเวณให้บริการลูกค้าและภายในอาคารสำนักงาน เพื่อสร้างความปลอดภัย รวมถึงได้ออกประกาศคำสั่งภายในเพื่อให้พนักงานปฎิบัติตามนโยบายรัฐบาลอย่างเคร่งครัด อีกทั้งยังได้ให้ความร่วมมือในการประชาสัมพันธ์ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับเชื้อ COVID-19 คำแนะนำวิธีปฏิบัติตนผ่านช่องทางสื่อสารของ MEA เพื่อให้พนักงานและประชาชนมีความเข้าใจและสามารถดูแลตนเองและคนใกล้ชิดได้อย่างถูกวิธี พร้อมร่วมรณรงค์ให้ทุกคนมีวินัยในการใช้ชีวิตแบบ New Normal โดยสวมใส่หน้ากากตลอดเวลาที่อยู่ข้างนอก เว้นระยะห่าง 1-2 เมตร ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ และสแกนเข้าและออกจากสำนักงานทุกแห่งผ่านแพลตฟอร์ม "ไทยชนะ" เพื่อร่วมแรงร่วมใจ และผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปด้วยกัน
7 วิธีลดใช้ไฟ MEA
เป็นที่รู้กัน ช่วงนี้อากาศร้อน อุณหภูมิเพิ่มขึ้นเป็นปกติอยู่แล้ว และยิ่งตอนนี้อยู่บ้าน ลดการแพร่ระบาด COVID-19 และเราจะทำอย่างไรล่ะ? ให้การใช้ไฟฟ้าภายในบ้านประหยัดขึ้นกว่าเดิม #MEA มาแนะนำวิธีการใช้ไฟฟ้าให้เป็น ลดเห็น ๆ ตอนบิลมา กันนะครับ
1.เย็นกายสบายใจที่ 26 องศาเซลเซียส
เปิดพัดลมช่วย เพิ่มความเย็นได้ หรือปิดเครื่องปรับอากาศเร็วขึ้นวันละ 1 ชั่วโมง ช่วยประหยัดค่าไฟได้ประมาณ 82 บาท/เดือน *คิดที่ขนาด 13,000 btu/ชม.
2.ถอดปลั๊กเมื่อน้ำเดือด
ควรต้มน้ำแค่ปริมาณที่ใช้ และเลิกพฤติกรรมเสียบปลั๊กไว้ตลอดวัน หากเสียบปลั๊กกระติกน้ำร้อนทิ้งไว้วันละ 10 ชั่วโมง จะเสียค่าไฟเพิ่มขึ้น 123 บาทต่อเดือน *คิดที่ขนาด 2.5 ลิตร 700 วัตต์
3.ตู้เย็นชื่นใจ...ค่าไฟก็ลด
เปิดตู้เย็นเมื่อจำเป็นและปิดให้สนิททุกครั้ง ไม่ใส่ของจนแน่นตู้เย็นเกินไป ตั้งตู้เย็นให้ห่างจากผนังด้านหลัง/ด้านข้าง อย่างน้อย 15 เซนติเมตร ช่วยระบายความร้อนและประหยัดไฟเพิ่มขึ้น
4.ใช้คอมพิวเตอร์ให้เป็น
หากเปิดทิ้งไว้วันละ 3 ชั่วโมง จะเสียค่าไฟเพิ่มขึ้น 22 บาท/เดือน ควรเลือกใช้ที่มีสัญลักษณ์ Energy Star เปลี่ยนมาใช้โน้ตบุ๊คแทนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะจะประหยัดไฟได้ถึง 3 เท่า *คิดที่ชุดคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ พร้อมจอภาพ 24 นิ้ว
5.เลิกใช้ ต้องปิดสวิตช์ ถอดปลั๊ก
ปิดสวิตช์/ถอดปลั๊กทุกครั้งเมื่อเลิกใช้งาน เพราะกลุ่ม Stand by กินไฟในบ้านแบบไม่รู้ตัว การปิดด้วยรีโมทคอนโทรลโดยไม่ถอดปลั๊กจะสิ้นเปลืองค่าไฟประมาณ 1.2 บาท/เดือน *คิดที่ LED black light TV ขนาด 43 นิ้ว ปิดด้วยรีโมตคอนโทรล 19 ชั่วโมง/วัน
6.ไม่รีดผ้าในห้องแอร์
ทำให้เครื่องปรับอากาศต้องทำงานหนักสิ้นเปลืองค่าไฟ ควรรีดผ้าครั้งละมากๆ และถอดปลั๊กก่อนรีดเสร็จ 2-3 นาที ไม่พรมน้ำให้เปียกชุ่มเกินไป เตารีดขนาด 1,000 วัตต์ ใช้งาน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์ ทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนัก เสียค่าไฟเพิ่ม 12 บาท/เดือน
7.เปลี่ยนหลอดไฟเป็นหลอด LED
ประหยัดพลังงาน หลอด LED สามารถประหยัดพลังงานมากกว่าหลอดไฟประเภทอื่นๆ 50-75% โดยเฉลี่ยแล้วมีอายุการใช้งานสูงสุด 50,000 ชั่วโมง หรือประมาณ 5 ปีขึ้นไป เปลี่ยนหลอดไฟฟ้าทรงกลม 32 วัตต์ แทนด้วยหลอด LED 18 วัตต์ จำนวน 1 ดวงใช้งาน 5 ชั่วโมง/วัน จะประหยัดไฟลงได้ 14 บาท/เดือน
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web